ความท้าทาย

เมื่อ MiniMax เปิดตัวโมเดลการสร้างข้อความเป็นวิดีโอด้วย AI ในเดือนสิงหาคม 2024 ในฐานะผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างขึ้นบน LLM ทีมงานก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าโมเดลนี้กำลังได้รับความนิยม โดยกลายเป็นกระแสไวรัลบน Reddit และ X โดยมีครีเอเตอร์หลายพันคนต้องการทดลองใช้ก่อนที่ MiniMax จะตั้งชื่อโมเดลหรือวางแผนว่าจะสร้างรายได้จากโมเดลอย่างไรด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้ MiniMax จึงจำกัดให้ผู้ใช้แต่ละคนสามารถทดลองใช้ฟรีได้เพียงสามครั้งเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย

ด้วยความไม่ทันตั้งตัว ทีมวิศวกร 10 คนของบริษัทต้องเร่งพัฒนาระบบการชำระเงินตามรอบบิลขึ้นมาเอง โดยใช้เวลาหนึ่งเดือนในการพัฒนาตรรกะการเรียกเก็บเงินตามรอบบิล แต่พวกเขากลับเจอปัญหาเกี่ยวกับการชำระเงินซ้ำๆ ซึ่งบริษัทไม่เคยประสบมาก่อน

แม้ว่า MiniMax จะขยายฐานผู้ใช้ทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ AI ที่เป็นนวัตกรรมของบริษัท แต่บริษัทก็เผชิญความท้าทายอีกอย่างเกี่ยวกับกระบวนการออกใบแจ้งหนี้ด้วยตนเอง ระบบการเรียกเก็บเงินที่พัฒนาขึ้นเองของบริษัทสามารถติดตามการใช้โทเค็น API ของลูกค้าทั้งขนาดเล็กและองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่กลับขาดกลไกการออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ จึงส่งผลให้สมาชิกทีมฝ่ายการเงินสองคนต้องใช้เวลาประมาณสัปดาห์ละห้าชั่วโมงในการสร้าง ส่ง และแก้ไขปัญหาใบแจ้งหนี้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท

ด้วยรายได้ที่เข้ามาจากทั่วโลก MiniMax ยังจำเป็นต้องจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีในหลายเขตอำนาจศาล โดยไม่สร้างภาระให้ทีมฝ่ายการเงินต้องยุ่งยากกับการติดตามด้วยตนเองและกฎเกณฑ์เฉพาะประเทศ

โซลูชัน

ในปี 2024 MiniMax หันมาใช้ Stripe เพื่อสร้างระบบการรับชำระเงินระดับโลกที่ปรับขนาดได้อย่างรวดเร็ว โดย MiniMax ใช้ Stripe Payments ในการประมวลผลการชำระเงินครั้งแรกและการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าสำหรับผู้สมัครใช้บริการ Stripe API ช่วยให้การตั้งค่า Payments ทำงานร่วมกับตรรกะการเรียกเก็บเงินเดิมของบริษัทเป็นเรื่องง่าย โดยไม่ต้องสร้างระบบใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ Stripe Payments ยังแก้ไขปัญหาไม่คาดคิดที่วิศวกรของบริษัทประสบ เช่น การปรับเวลาให้เหมาะสมกับเขตเวลาทั่วโลกเพื่อไม่ให้ผู้ใช้ในภูมิภาคต่างๆ เห็นการชำระเงินตามรอบบิลหมดอายุเร็วกว่าที่ควร (เนื่องจากการตัดรอบตามเวลาที่กำหนดไว้คงที่ แทนการใช้เขตเวลาท้องถิ่นของผู้ใช้)

เมื่อใช้ Payments MiniMax จึงเริ่มรวบรวมรายรับจากผู้ใช้ในกว่า 100 ประเทศทันทีผ่านระบบการรับชำระเงินเดียว จากนั้น MiniMax ก็ใช้ชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe เพื่อสร้างและปรับปรุงประสบการณ์การชำระเงินใหม่อย่างรวดเร็ว ทีมงานใช้Stripe Checkout ซึ่งเป็นแบบฟอร์มการชำระเงินที่สร้างไว้ล่วงหน้าซึ่งช่วยให้เปิดตัวประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยได้ง่าย อีกทั้งยังเปิดใช้งานวิธีการชำระเงินต่างๆ เช่น Apple Pay และ Google Pay ผ่านแดชบอร์ด Stripe นอกจากนี้ ทีมงานยังใช้ Adaptive Pricing เพื่อแสดงราคาในสกุลเงินท้องถิ่นโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินอีกด้วย

ในทุกกระบวนการชำระเงิน MiniMax สามารถใช้โมเดล AI ที่ฝังอยู่ในชุดเครื่องมือด้านการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อแสดงวิธีการชำระเงินแบบไดนามิกตามสัญญาณต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามด้านวิศวกรรมเพิ่มเติม MiniMax ยังทำให้กระบวนการชำระเงินง่ายขึ้นอีกด้วยการเพิ่ม Link กระเป๋าเงินที่สร้างโดย Stripe ซึ่งให้ผู้ใช้บันทึกข้อมูลการชำระเงินเพียงครั้งเดียวเพื่อชำระเงินได้รวดเร็วทุกที่ที่มี Link ให้บริการทั่วโลก

นอกจากนี้ MiniMax ยังเริ่มใช้ Stripe Invoicing เพื่อสร้างและจัดการใบแจ้งหนี้โดยอัตโนมัติ ทีมงานได้แทนที่เอกสาร Word ที่เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายด้วยเครื่องมือการออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติของ Stripe ที่เปิดใช้งานรูปแบบที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นโดยที่ทีมการเงินไม่ต้องทําการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเองก่อนส่งแต่อย่างใด

เพื่อจัดการข้อกําหนดการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี MiniMax ยังเพิ่มStripe Tax เพื่อทําให้การจัดการภาษีแบบครบวงจรเป็นไปโดยอัตโนมัติ รวมถึงการคํานวณ การเรียกเก็บภาษี การรายงาน การจดทะเบียน และการยื่นสําหรับธุรกรรมทั่วโลก

ผลลัพธ์

MiniMax สร้างรายได้จากแอปใหม่ภายในสองสัปดาห์

หลังจากขั้นตอนการประเมินสั้น ๆ MiniMax ได้นํา Payments ไปใช้ภายในสองสัปดาห์ โดยการนำไปใช้อาศัยวิศวกรเพียงสองคน ทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมสามารถมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมได้

"เมื่อเทียบกับโซลูชันการชำระเงินก่อนหน้านี้ Stripe ต้องการทรัพยากรในการพัฒนาน้อยกว่า เนื่องจากมีคู่มือที่จัดทำไว้อย่างดีและ API ที่ชัดเจน ซึ่งทําให้ง่ายต่อการใช้งานและบํารุงรักษา วิศวกรของเราจึงสามารถกลับมุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนรายรับและการรักษาลูกค้า เช่น การเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนภาพของกล้องสไตล์ฮอลลีวูด วิศวกรทุกคนต่างก็อยากให้เราใช้ Stripe ตั้งแต่สองเดือนก่อนหน้านี้" ลินดา เชิง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจองค์กรระดับโลกของ MiniMax กล่าว

MiniMax ประมวลผลการชําระเงินจากผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ทั่วโลก

ด้วยการรองรับการชําระเงินด้วยบัตรและกระเป๋าเงินสําหรับผู้สมัครใช้บริการในกว่า 100 ประเทศ MiniMax ได้สร้างโมเดลการชำระเงินตามรอบบิลที่ประมวลผลการชําระเงินจากลูกค้าที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกในแต่ละเดือน และด้วย Adaptive Pricing นั้น MiniMax จึงสามารถแสดงราคาที่ปรับตามพื้นที่ให้กับธุรกรรมทั้งหมดประมาณ 89% ได้ในขณะนี้

"Stripe ช่วยให้เราเพิ่มปริมาณการชำระเงินและความเร็วในการขยายตัวทั่วโลก" คุณลินดากล่าว

40% ของปริมาณการชำระเงินในปัจจุบันดำเนินการผ่าน Link

MiniMax ใช้ Link เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่รวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านรายละเอียดการชำระเงินที่บันทึกไว้ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการชำระเงิน การใช้งาน Link ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้า MiniMax โดยปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดประมาณ 40% ที่ชำระเงินผ่าน Link

การออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติช่วยทีมการเงินประหยัดเวลาถึงห้าชั่วโมงต่อสัปดาห์

MiniMax ใช้ Stripe เพื่อทำให้กระบวนการออกใบแจ้งหนี้เป็นอัตโนมัติ ซึ่งช่วยทีมการเงินประหยัดเวลาได้ห้าชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งนอกเหนือจากการปรับปรุงกระแสเงินสดและลดข้อผิดพลาดของมนุษย์แล้ว ยังช่วยให้ทีมการเงินสามารถมุ่งเน้นกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การคาดการณ์ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้

คุณลินดากล่าวว่า "เมื่อใช้ Stripe ขั้นตอนการออกใบแจ้งหนี้ของเราจึงเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างมาก ซึ่งส่งผลให้ความล่าช้าในการชำระเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด และข้อผิดพลาดในใบแจ้งหนี้ลดลงอย่างมากเช่นกัน"

Stripe Tax ช่วยปรับปรุงการปฏิบัติตามข้อกำหนดใน 5 ตลาดหลัก

MiniMax ใช้ Tax เพื่อรักษาปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีในตลาดที่ใหญ่ที่สุด 5 แห่ง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาให้กับทีมการเงิน พร้อมทั้งเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินงาน

"ในฐานะธุรกิจสตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เรากำลังเร่งติดตามรายละเอียดเหล่านี้ และแต่ละประเทศก็มีรหัสภาษีที่แตกต่างกันไป ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือด้านภาษีของ Stripe เราสามารถประหยัดเวลาได้ประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเดือนในการทำงานด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษี" คุณลินดากล่าว