ความท้าทาย

คนส่วนใหญ่มักชอบซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต/เดบิต หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่เจ้าของธุรกิจกลับต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อประมวลผลการชำระเงินดิจิทัล ในสหราชอาณาจักร เจ้าของธุรกิจเหล่านี้มักต้องรอ 3 วันเพื่อฝากเงินเบิกจ่ายในบัญชีธนาคาร นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงินและโมเดลการชำระเงินที่ล่าช้ายังถือเป็นอุปสรรคที่ยากสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องหาเงินสดมาให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของธุรกิจ

ผู้ก่อตั้งของ Lopay จึงต้องการพัฒนาแอปประมวลผลการชำระเงินมาที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กรักษาผลกำไรและเข้าถึงเงินเบิกจ่ายได้ไวขึ้น Lopay เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เกิดจากเงินทุนของผู้ก่อตั้งเองทั้งหมด โดยมีเป้าหมายในการนำแอปเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็วและใช้ค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ ความสามารถในการขยายขอบเขตและความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์มยังเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ Lopay เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ รักษาเงินจากการระดมทุน และกระตุ้นการเติบโตทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

โซลูชัน

ผู้กอตั้งของ Lopay เลือกใช้ Stripe เป็นแพลตฟอร์มประมวลผลการชำระเงิน เนื่องจากได้ใช้ Stripe ในการดำเนินงานประจำวันมาเป็นเวลากว่าสิบปี และพบว่าระบบของ Stripe นั้นเสถียร รวมทั้งสามารถขยายขอบเขตได้

"ความเรียบง่ายของ Stripe คือประโยชน์ที่สำคัญต่อเรามากๆ" Oliver Mahoney ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Lopay กล่าว

Lopay สามารถเร่งระยะเวลาเปิดตัว ลดค่าใช้จ่ายด้านการพัฒนาและการดำเนินงาน รวมถึงลดความเสี่ยงและความซับซ้อนลงได้ด้วยคำแนะนำจากทีมบริการเฉพาะทางของ Stripe เนื่องจาก Stripe ช่วยดูแลในด้านการประมวลผลการชำระเงิน การปฏิบัติตามข้อกำหนด การออกใบอนุญาต และกฎด้านเครือข่ายบัตร โซลูชันที่ครบวงจรของ Stripe ยังช่วยให้ Lopay เพิ่มฟีเจอร์และขยายการสนับสนุนสำหรับลูกค้าในประเทศอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยน API หรือเริ่มทำงานร่วมกับธนาคารใหม่ๆ ด้วยตัวเอง

ผู้ก่อตั้งของ Lopay เก็บตัวทำงานใน Airbnb จนสามารถพัฒนาและเปิดตัวแอปครั้งแรกได้ในเวลาเพียง 5 วัน โดยมีทีมบริการเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญช่วยตอบคำถามและสนับสนุนขั้นตอนการพัฒนา ทีมงานของ Lopay สร้างแอปใน Stripe Connect ทำให้ Stripe ช่วยจัดการกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของผู้ใช้ ยืนยันรายละเอียดการเบิกจ่ายเข้าธนาคาร และอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI ได้ นอกจากนี้ Lopay ยังใช้งาน Instant Payouts เพื่อให้ผู้ใช้เลือกรับการชำระเงินได้ในทันที ในวันถัดไป หรือเป็นรายสัปดาห์ และใช้ Stripe Payments เพื่อให้ผู้ใช้รับเงินผ่านตัวเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของ PCI ได้ เช่น ผ่านลิงก์ที่ส่งในอีเมลและข้อความ SMS อีกทั้งนักพัฒนาในทีมยังเปิดใช้งานธุรกรรมผ่านบัตรที่จุดขายด้วย Stripe Terminal

หลังจากที่เปิดตัวแอปครั้งแรกไม่นาน Lopay ก็ได้เพิ่มฟังก์ชันกระเป๋าเงินดิจิทัลและ Tap to Pay ด้วย Stripe Terminal เพื่อให้ชำระเงินได้แบบไร้สัมผัส ลูกค้าสามารถแตะ สแกน หรือถือบัตรและอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีกระเป๋าเงินดิจิทัลใกล้กับเครื่องอ่านบัตร Terminal เพื่อประมวลผลการชำระเงินได้ภายในไม่กี่วินาทีโดยไม่ต้องเสียบบัตร และทีมนักพัฒนาก็ได้ใช้ Stripe Identity ที่เป็นเครื่องมือการยืนยันเพื่อจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน "รู้จักลูกค้าของคุณ (KYC)" อีกด้วย

ต่อมา Lopay ก็พบว่าธุรกิจขนาดเล็กสามารถรับประโยชน์จากตัวเลือกอื่นๆ สำหรับการชำระเงินแบบทันที จึงได้ใช้ Stripe Issuing เพื่อพัฒนาและเปิดตัวบัตรสะสมคะแนน Visa ของ Lopay ในเวลาเพียง 6 วัน ทำให้แสดงยอดคงเหลือจากการชำระเงินผ่านบัตรได้ทันที ผู้ใช้ Lopay สามารถหักลบค่าธรรมเนียมการประมวลผลด้วยคะแนนสะสมที่ได้รับทุกครั้งจากการใช้บัตร และเนื่องจาก Issuing รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ผู้ใช้จึงสามารถเชื่อมบัตรสะสมคะแนนเช้ากับกระเป๋าเงินดิจิทัลและใช้ร่วมกับ Tap to Pay ได้สะดวก

"Stripe Issuing ช่วยลดความซับซ้อนลงไปได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติหรือการจัดการธุรกรรมก็ตาม และเนื่องจากเราใช้ Stripe มาก่อนแล้ว จึงสามารถรักษาความเสถียรของแอปได้" Mahoney กล่าว

ผลลัพธ์

เริ่มต้นใช้งานได้รวดเร็วขึ้นโดยมีค่าใช้จ่ายต่ำลง

Connect ช่วยให้ Lopay เพิ่มผู้ใช้เข้ามาในระบบได้ในเวลาไม่กี่นาทีหรือชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียเวลาหลายวันหรือสัปดาห์เหมือนแอปประมวลผลอื่นๆ นอกจากนี้ Lopay ยังรักษาค่าใช้จ่ายให้ต่ำลงได้โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe ที่เก็บค่าธรรมเนียมธุรกิจจากผู้ใช้ในอัตราที่ต่ำกว่าแอปประมวลผลการชำระเงินอื่นๆ อย่าง SumUp, Zettle และ Square

เข้าถึงเงินเบิกจ่ายได้ทันทีและมีรายรับเพิ่มเติม

การนำเสนอบัตรสะสมคะแนน Visa ของ Lopay ผ่าน Issuing ช่วยให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ โดยผู้ใช้ Lopay สามารถเข้าถึงเงินเบิกจ่ายและรับเปอร์เซ็นต์เงินคืนจากยอดใช้จ่ายเป็นเครดิตการประมวลผล ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความน่าดึงดูดของแพลตฟอร์ม Lopay ไปพร้อมๆ กัน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ชำระเงิน 100 ปอนด์ผ่านบัตร ก็จะไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมครั้งถัดไปมูลค่า 25 ปอนด์ของลูกค้า และ Lopay ยังมีรายรับทุกครั้งที่ลูกค้าสมัครใช้บริการและใช้บัตร

ขณะนี้ผู้ใช้ Lopay จำนวน 1 ใน 10 คน ใช้บัตรสะสมคะแนน Visa ของ Lopay โดยบัตรและแอปของ Lopay ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมธุรกิจของลูกค้าไปได้แล้วกว่า 3 ล้านปอนด์

การเติบโตที่ช่วยให้ได้รับเงินระดมทุนมากขึ้น

เนื่องจาก Stripe มีความพร้อมให้บริการถึง 99.999% แอป Lopay จึงมีความเสถียรสูงมาก ในปี 2022 ซึ่งนับเป็นระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากเปิดตัวครั้งแรก Lopay ก็ได้รับรางวัลเหรียญเงินในฐานะผู้สร้างนวัตกรรมฟินเทคและรางวัลการเติบโตยอดเยี่ยมจาก UK Business Tech Awards ภายใน 2 ปี Lopay ก็สามารถเพิ่มฐานลูกค้าจาก 0 เป็น 30,000 คนได้สำเร็จ และเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ก็ประมวลผลการชำระเงินด้วยบัตนผ่าน Lopay ไปแล้วเป็นมูลค่ามากกว่า 500 ล้านปอนด์

ภายในปี 2023 ทาง Lopay ได้เพิ่มผู้ใช้ใหม่เข้ามาในระบบกว่า 1,000 คนต่อสัปดาห์ และในปีเดียวกัน บริษัทก็เป็นแอปที่ประมวลผลการชำระเงินสูงสุดในสหราชอาณาจักร รวมทั้งเปิดรอบการระดมทุนได้สำเร็จ โดย Lopay วางแผนปี 2024 ไว้ว่าจะให้บริการแอปในต่างประเทศ โดยประกอบไปด้วยยุโรป อเมริกาเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกได้รับประโยชน์จากการเบิกจ่ายที่รวดเร็วขึ้นและค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง