ความท้าทาย

ในปี 2016 ทั้ง Aditya Haripurkar และ Nitin Muthyala เกิดไอเดียในการสร้าง HitPay ซึ่งเป็นโซลูชันการประมวลผลการชำระเงินสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMB) และเนื่องจากความต้องการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับลูกค้าเรียกร้องให้เพิ่มบริการอื่นๆ อย่างการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Haripurkar และ Muthyala จึงจำเป็นต้องหาเงินสนับสนุนเพื่อเปิดตัวโซลูชันการชำระเงินที่ครอบคลุมสำหรับ SMB ในสิงคโปร์และมาเลเซีย

SMB จำนวนมากใช้โซลูชันการชำระเงินและการป้องกันการฉ้อโกงหลายๆ แบบร่วมกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตน แต่ความไม่สอดคล้องกันของโซลูชันเหล่านี้ก่อให้เกิดความซับซ้อนและทำให้ SBM ไม่ได้รับข้อมูลธุรกรรมของลูกค้าที่รวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งปัจจัยนี้เป็นอุปสรรคต่อการกระทบยอดเป็นอย่างมาก HitPay จึงต้องการช่วยแก้ปัญหาโดยการสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบหลายช่องทางที่ไม่ต้องเขียนโค้ดที่ SMB สามารถใช้เพื่อประมวลผลการชำระเงินทั้งในร้านค้าและออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนลดปัญหาต่างๆ อย่างการฉ้อโกงและการดึงเงินคืนที่ส่งผลเสียต่อผลกำไรของธุรกิจ

ความสะดวกในการใช้งานก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ HitPay บริษัทต้องการให้ SMB ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบสามารถประมวลผลการชำระเงินได้ง่ายดายโดยใช้วิธีการชำระเงินที่ตนสะดวก รวมถึงรองรับสกุลเงินจากทั่วโลก และมีข้อมูลเชิงลึกแบบออนดีมานด์เกี่ยวกับการขาย และเนื่องจากผู้ก่อตั้งของ HitPay สร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเองตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาจึงมองหาบริการที่พร้อมใช้งานทันทีและเครื่องมือที่ไม่ต้องเขียนโค้ดซึ่งใช้เพื่อเร่งการพัฒนาระบบ ช่วยให้ปรับแต่งการทำงานได้ง่ายขึ้น และลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานได้

โซลูชัน

ในปี 2020 ที่ผ่านมา HitPay ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe เนื่องจากมีบริการประมวลผลการชำระเงินที่ครอบคลุมและใช้งานง่าย นักพัฒนาของบริษัทเขียนและเชื่อมต่อการทำงานซอฟต์แวร์ธุรกิจของ HitPay เข้ากับแพลตฟอร์ม Stripe โดยใช้ Stripe Connect เพื่อให้ Stripe ดูแลด้านการเพิ่ม SMB เข้ามาในระบบ ยืนยันรายละเอียดการเบิกจ่ายเข้าธนาคารของ SMB และอำนวยความสะดวกด้านการทำธุรกรรมที่เป็นไปตามข้อกำหนดของ PCI โดยใช้ Stripe Payments

หลังจากนั้น HitPay ได้เพิ่มฟังก์ชันธุรกรรมที่จุดขายและธุรกรรมระบบดิจิทัลผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย Stripe Terminal ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ SMB สามารถรับการชำระเงินจากทั้งจุดขายและออนไลน์ที่ทำผ่านบัตรเครดิตและเดบิต รวมถึงตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ อย่างกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Google Pay และ Apple Pay ทำให้ SMB ได้รับมุมมองที่มีศูนย์กลางเป็นธุรกรรมของลูกค้า ไม่ว่าจะใช้วิธีการชำระเงินใดก็ตาม เพื่อให้สามารถกระทบยอดได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ HitPay ยังเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบปรับแต่งได้ลงในแพลตฟอร์มโดยใช้โมดูล UI แบบสำเร็จรูปใน Stripe Elements อีกด้วย ซึ่ง Payment Elemen ช่วยให้ SMB ที่ใช้ HitPay รองรับสกุลเงินได้มากกว่า 100 แบบผ่านการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

HitPay ต้องการมอบฟังก์ชันด้านความปลอดภัยและการลดการฉ้อโกงผ่านการเชื่อมต่อการทำงานให้แก่ SMB บริษัทจึงได้เริ่มใช้ Stripe Radar for Fraud Teams ทึ่มอบฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูงซึ่งมาพร้อม Stripe Radar และการควบคุมขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยในระบบไอที อีกทั้ง HitPay ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับทีมบริการเฉพาะทางของ Stripe เพื่อรับความช่วยเหลือด้านการติดตั้งใช้งานอีกด้วย โดยหลังจากประเมินความเสี่ยงของแพลตฟอร์มแล้ว ทีมบริการเฉพาะทางนี้ก็แนะนำ HitPay เกี่ยวกับวิธีปรับการเชื่อมต่อการทำงาน และกำหนดค่ากฎที่ควบคุมการตรวจจับและลดความเสี่ยงของ Radar

ทีมบริการเฉพาะทางของ Stripe ยังแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของ SMB ที่ใช้ HitPay เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้นด้วย การปรับเปลี่ยนโซลูชันนี้ประกอบไปด้วยการส่งข้อมูลอัปเดตสถานะแบบอัตโนมัติให้ SMB และการสร้างโมเดลความเสี่ยงแบบองค์รวมตั้งแต่ช่วงที่ SMB เริ่มต้นใช้งาน HitPay และ Stipe แรกๆ

ผลลัพธ์

HitPay มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าในปีเดียวโดยใช้ Stripe

หลังจากที่ใช้ Stripe เพื่อมอบฟังก์ชันการชำระเงินแบบหลายช่องทางเพิ่มเติมจากการรับชำระเงินที่จุดขายเพียงอย่างเดียว HitPay ก็มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยช่วงต้นปี 2020 นั้น HitPay ประมวลผลธุรกรรมจำนวน 12,000 รายการ และในช่วงต้นปี 2021 หลังจากที่เริ่มใช้ Stripe แล้ว บริษัทก็มีปริมาณการประมวลผลเพิ่มขึ้นเป็น 290,000 รายการ

"ก่อนหน้านี้เราเพียงช่วยให้ SMB ยอมรับการชำระเงินที่จุดขายเท่านั้น แต่เมื่อเราเริ่มนำเสนอการรับชำระเงินออนไลน์ร่วมกับ Stripe ปริมาณการชำระเงินที่เราประมวลผลก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 8 เท่าในปีเดียว" Haripurkar กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงปี 2020 ถึง 2023 ทาง HitPay ก็มีรายรับเฉลี่ยต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 455% จากการประมวลผลธุรกรรมด้วย Stripe และภายในปี 2024 ทาง HitPay ก็ประมวลผลธุรกรรมไปแล้วกว่า 3 ล้านรายการด้วย Stripe โดยมีมูลค่ารวมถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก SMB 15,000 แห่งใน 2 ประเทศ

HitPay ปลดล็อกโอกาสด้านการชำระเงินแบบหลายช่องทางให้กับ SMB ในเวลาเพียงไม่กี่นาที

การสร้างแพลตฟอร์มการค้าที่รวมเป็นหนึ่งเดียวของ HitPay ทำให้ SMB ประมวลผลการชำระเงินได้อย่างรวดเร็วในวิธีที่สอดคล้องกับทรัพยากร วิสัยทัศน์ และเงื่อนไขที่ตนมี โดยในเวลาเพียง 5 นาที SMB ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบก็สามารถเริ่มรับการชำระเงินที่จุดขายและออนไลน์ได้ทันที เนื่องจาก Stripe Connect ทำให้กระบวนการเริ่มต้นใช้งานเป็นเรื่องง่าย หลังจากนั้น SMB ก็สามารถสร้างประสบการณ์การชำระเงินแบบปรับแต่งเองได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเขียนโค้ดใน Elements นอกจากนี้ HitPay ยังใช้ Stripe Radar for Fraud Teams เพื่อดำเนินงานด้านการจัดการการฉ้อโกงและการดึงเงินคืนให้ SMB เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้มีเวลาดูแลกิจการเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความซับซ้อนต่างๆ

SMB เพิ่มอัตราการชำระเงินสำเร็จด้วยประสบการณ์การใช้งานและข้อมูลเชิงลึกที่ปรับแต่งได้

HitPay ช่วยให้ SMB ดูข้อมูล KPI ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นอัตราการชำระเงินสำเร็จ ยอดขาย และวิธีการชำระเงินที่ใช้จากแดชบอร์ดที่ดูแลโดย Stripe ซึ่งข้อมูลเชิงลึกและตัวเลือกการปรับแต่งที่ง่ายดายจาก Elements ช่วยให้ SMB ปรับปรุงบริการและเพิ่มรายรับได้ผ่านการเปลี่ยนวิธีการชำระเงินและสกุลเงินที่รองรับ รวมถึงรูปลักษณ์และการออกแบบประสบการณ์การชำระเงินของลูกค้า

"พวกเราที่ HitPay ทำงานโดยยึดหลักการสร้างเทคโนโลยีที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องการ" Nitin Muthyala ผู้ร่วมก่อตั้งและ CTO ของ HitPay กล่าว "สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผมไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่พวกเขาเลือกใช้ แต่เป็นวิธีการดำเนินธุรกิจและการเติบโตส่วนบุคคลแบบสร้างสรรค์ การเป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe ช่วยให้เราพัฒนาแพลตฟอร์ม HitPay อย่างรวดเร็วเพื่อให้ SMB ดำเนินงานได้ตามเงื่อนไขของตนในรูปแบบที่ต้องการ ไม่ว่าจะมีทรัพยากรเยอะหรือน้อยก็ตาม และสามารถเติบโตได้ในเศรษกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ"