คู่มือเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับธุรกิจการบริการ

Billing
Billing

Stripe Billing ช่วยให้คุณเรียกเก็บเงินและจัดการลูกค้าได้ในทุกแบบที่ต้องการ ตั้งแต่การเรียกเก็บเงินแบบตามรอบไปจนถึงการเรียกเก็บเงินตามการใช้งาน และสัญญาการเจรจาการขาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  1. บทแนะนำ
  2. การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติทำงานอย่างไร
  3. การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติมีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมการบริการ
  4. ฟีเจอร์หลักๆ ของซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม
  5. วิธียกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม
  6. ความท้าทายและแนวทางแก้ไขสำหรับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการบริการ
    1. ปัญหาในการผสานการทำงาน
    2. ข้อกังวลด้านความปลอดภัย
    3. การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
    4. การหยุดทำงานของระบบ
    5. ค่าใช้จ่าย
  7. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมการบริการ

การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ คือ การใช้ระบบซอฟต์แวร์เพื่อจัดการเรื่องการออกใบแจ้งหนี้และการเรียกเก็บเงินโดยไม่ต้องมีบุคลากรเข้าไปดำเนินการ ระบบจะสร้างใบแจ้งหนี้ขึ้นโดยอัตโนมัติตามกำหนดเวลาหรือตัวกระตุ้นการดำเนินการที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น การต่ออายุการชำระเงินตามรอบบิลหรือระดับการใช้บริการ ระบบจะจัดการการประมวลผลการชำระเงินในด้านต่างๆ โดยส่งการแจ้งเตือนเมื่อครบกำหนดชำระเงินและอัปเดตบันทึกเมื่อได้รับชำระเงินแล้ว อุตสาหกรรมการบริการมักนำระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเข้ามาใช้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการและยกระดับขั้นตอนการเช็กอินและเช็กเอาต์ได้

ตลาดการบริการทั่วโลกมีมูลค่าเกิน 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะสูงถึงราว 5.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024: การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนการเรียกเก็บเงินไปตามการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ได้ หลังจากนี้ เราจะพาไปดูบทบาทของการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการบริการ วิธีระบบนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการนำระบบดังกล่าวไปใช้

เนื้อหาหลักในบทความ

  • การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติทำงานอย่างไร
  • การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติมีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมการบริการ
  • ฟีเจอร์หลักๆ ของซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม
  • วิธียกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม
  • ความท้าทายและแนวทางแก้ไขสำหรับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการบริการ
  • แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมการบริการ

การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติทำงานอย่างไร

ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะผสานการทำงานองค์ประกอบหลายๆ อย่างของขั้นตอนการเรียกเก็บเงินและการชำระเงินไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่แทบไม่ต้องมีคนคอยดูแล ระบบมักมีลักษณะการทำงานดังนี้

  • ข้อมูลลูกค้า: ระบบมีฐานข้อมูลที่จัดเก็บข้อมูลลูกค้า ได้แก่ ข้อกำหนดในการชำระเงิน รอบการเรียกเก็บเงิน และวิธีการชำระเงิน
  • การติดตามบริการหรือสินค้า: ระบบจะติดตามการใช้งานหรือการซื้อบริการและสินค้าต่างๆ ในกรณีของธุรกิจที่มีการชำระเงินตามรอบบิลหรือบริการตามการใช้งาน ระบบจะบันทึกทุกธุรกรรมหรือการโต้ตอบที่ควรมีการเรียกเก็บเงินเอาไว้
  • การจัดทำใบแจ้งหนี้: แพลตฟอร์มการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะจัดทำใบแจ้งหนี้ตามรอบการเรียกเก็บเงินและการใช้บริการหรือสินค้าของลูกค้า โดยคุณจะกำหนดให้มีการจัดทำใบแจ้งหนี้ตามรอบ (เช่น รายเดือน รายไตรมาส) หรือจัดทำใบแจ้งหนี้เมื่อมีการดำเนินการบางอย่าง (เช่น ถึงขีดจำกัดข้อมูลแล้ว) ก็ได้
  • การส่งใบแจ้งหนี้: ระบบจะส่งใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติผ่านวิธีการส่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น อีเมลหรือพอร์ทัลลูกค้า ลูกค้าสามารถตรวจสอบความถูกต้องของใบแจ้งหนี้ก่อนดำเนินการขั้นสุดท้ายได้
  • การประมวลผลการชำระเงิน: ระบบจะประมวลผลการชำระเงินผ่านการผสานการทำงานกับเกตเวย์การชำระเงิน ลูกค้าสามารถชำระใบแจ้งหนี้ด้วยบัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือระบบชำระเงินออนไลน์ก็ได้ ระบบจะอัปเดตสถานะการชำระเงินโดยอัตโนมัติเมื่อมีการประมวลผล
  • การจัดการการติดตามหนี้: หากมีการชำระเงินล่าช้า ระบบจะส่งการแจ้งเตือนหรือข้อความเตือนให้กับลูกค้า
  • การรายงานและการวิเคราะห์: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะให้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับแนวโน้มด้านการเรียกเก็บเงินและการชำระเงิน เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจเข้าใจกระแสรายรับและพบจุดที่ต้องปรับปรุงในรอบการเรียกเก็บเงิน
  • การปฏิบัติตามข้อกำหนดและการรักษาความปลอดภัย: ระบบช่วยให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมทั้งหมดจะได้รับการประมวลผลอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ เช่น กฎระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ของสหภาพยุโรปสำหรับการคุ้มครองข้อมูล หรือมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) สำหรับการรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน

การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติมีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมการบริการ

ในอุตสาหกรรมการบริการ การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน ยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าพัก และเพิ่มความแม่นยำทางการเงินได้ ธุรกิจเหล่านี้ใช้การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติในรูปแบบต่างๆ ดังนี้

  • ขั้นตอนการเช็กอินและเช็กเอาต์: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะจัดเก็บข้อมูลของผู้เข้าพักอย่างปลอดภัย เพื่อช่วยให้เช็กอินและเช็กเอาต์ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังแจ้งให้ผู้เข้าพักให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเข้าพักในระหว่างการเช็กเอาต์ได้ด้วย
  • ค่าใช้จ่ายแบบครบวงจร: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะรวมค่าบริการต่างๆ (เช่น ค่าบริการห้องพัก บริการสปา ค่าอาหาร) เอาไว้ในใบแจ้งหนี้เพียงรายการเดียว
  • การตั้งราคาและแพ็กเกจแบบไดนามิก: ระบบอัตโนมัติสามารถจัดการโมเดลการตั้งราคาแบบไดนามิกที่เปลี่ยนไปตามความต้องการ ฤดูกาล หรือโปรโมชันได้ นอกจากนี้ยังจัดการแพ็กเกจค่าบริการและอัตราค่าบริการแบบพิเศษต่างๆ เช่น ตัวเลือกที่รวมครบทุกอย่าง ได้ด้วย
  • การจองและการชำระเงินทางออนไลน์: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะประมวลผลการจองและการชำระเงินล่วงหน้าทางออนไลน์ ส่งใบแจ้งหนี้เพื่อยืนยันโดยอัตโนมัติ และซิงค์กับระบบการจองของโรงแรมเพื่อให้บันทึกทั้งหมดเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
  • การจัดการสกุลเงินและภาษี: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะจัดการหลายสกุลเงินและข้อกำหนดทางภาษีในเขตอำนาจศาลต่างๆ ให้กับผู้เข้าพักที่เป็นชาวต่างชาติ จึงมั่นใจได้ถึงการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีท้องถิ่นและการแปลงสกุลเงินต่างประเทศที่ถูกต้อง
  • การบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากร: ระบบอัตโนมัติบางระบบจะติดตามการใช้พลังงานหรือการใช้ทรัพยากรอื่นๆ ในห้องพักเพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บเงินหรือการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
  • โปรแกรมสะสมคะแนนและข้อเสนอแนะ: ระบบเหล่านี้ยังผสานการทำงานกับรางวัลแบบคะแนนสะสมหรือส่วนลดโดยอัตโนมัติได้ด้วย
  • การจัดการกิจกรรม: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติอาจช่วยรับมือกับการเรียกเก็บเงินที่ซับซ้อนได้ เช่น การจองห้องพักหลายห้อง บริการจัดเลี้ยง การเช่าอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ และค่าใช้จ่ายอื่นสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุมหรืองานแต่งงาน
  • การรายงานและการวิเคราะห์ทางการเงิน: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะจัดทำรายงานทางการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการโรงแรมติดตามรายรับ เข้าใจรูปแบบการใช้จ่าย และตัดสินใจเรื่องกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยมีข้อมูลประกอบได้
  • การจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) แบบครบวงจร: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะผสานการทำงานกับแพลตฟอร์ม CRM ต่างๆ ซึ่งช่วยติดตามความต้องการของผู้เข้าพัก การเข้าพักครั้งก่อนๆ และพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อเสนอบริการและแคมเปญการตลาดแบบเฉพาะตัวได้

ฟีเจอร์หลักๆ ของซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม

ซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติควรมีฟีเจอร์ดังนี้ จึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับโรงแรมต่างๆ

  • ฟังก์ชันการผสานการทำงาน: ซอฟต์แวร์ควรผสานการทำงานกับระบบการจัดการโรงแรมอื่นๆ เช่น ระบบการจัดการทรัพย์สิน (PMS), เครื่องมือ CRM, ระบบการจอง และระบบบันทึกการขาย (POS) เพื่ออัปเดตและแสดงการเรียกเก็บเงินทั้งหมดในใบเรียกเก็บเงินของผู้เข้าพักโดยอัตโนมัติ
  • การรองรับหลายสกุลเงินและหลายภาษา: ซอฟต์แวร์ควรรองรับหลายสกุลเงินและหลายภาษาเพื่อรองรับผู้เข้าพักที่เป็นชาวต่างชาติ
  • กำหนดเวลาการเรียกเก็บเงินที่ยืดหยุ่น: ซอฟต์แวร์ควรจะจัดการรอบการเรียกเก็บเงินและกำหนดเวลาการชำระเงินที่แตกต่างกัน จัดการเงินมัดจำและการชำระเงินล่วงหน้า แบ่งการชำระเงิน และจัดการการเรียกเก็บเงินหลังจากเข้าพักได้ด้วย
  • ใบแจ้งหนี้แบบปรับแต่งได้: ระบบควรช่วยให้ทางโรงแรมปรับแต่งใบแจ้งหนี้โดยการใส่แบรนด์ รายละเอียดของบริการ และค่าใช้จ่ายพิเศษหรือส่วนลดใดๆ ได้
  • การประมวลผลการชำระเงินโดยอัตโนมัติ: ซอฟต์แวร์ควรผสานการทำงานกับเกตเวย์การชำระเงินต่างๆ และรองรับวิธีการชำระเงินหลายได้หลายแบบ (เช่น บัตรเครดิต กระเป๋าเงินดิจิทัล การโอนเงินผ่านธนาคาร) นอกจากนี้ยังควรจัดการการอนุมัติล่วงหน้า หักเงินตามยอดที่ต้องชำระ และจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินของผู้ที่กลับมาเข้าพักประจำได้อย่างปลอดภัยด้วย
  • การรายงานและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์: ซอฟต์แวร์ควรจัดทำรายงานทางการเงินแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับรายรับ การชำระเงินที่ค้างชำระ และตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ การวิเคราะห์ยังติดตามแนวโน้มด้านประสิทธิภาพ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้เข้าพัก และความสามารถในการทำกำไรของบริการเฉพาะต่างๆ ได้ด้วย
  • การจัดการการติดตามหนี้: ซอฟต์แวร์ควรจะส่งการแจ้งเตือนให้ชำระเงินโดยอัตโนมัติก่อนและหลังเช็กเอาต์ได้
  • การรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด: ระบบต้องมีฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้เข้าพักและข้อมูลการชำระเงินที่ละเอียดอ่อน นอกจากนี้ยังควรรับรองถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ เช่น PCI DSS (สำหรับความปลอดภัยในการชำระเงิน), GDPR (สำหรับการคุ้มครองข้อมูลในสหภาพยุโรป) และกฎหมายท้องถิ่นอื่นๆ ด้วย
  • การเข้ากันได้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่: ซอฟต์แวร์ควรมีอินเทอร์เฟซหรือแอปที่เข้าได้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพื่อให้พนักงานและผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียกเก็บเงินและทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา
  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซควรเข้าใจและใช้งานง่ายสำหรับพนักงานโรงแรมในทุกระดับ
  • การรองรับการตั้งราคาพิเศษ: ซอฟต์แวร์ควรรองรับกลยุทธ์การตั้งราคาหลายแบบได้ง่ายๆ รวมถึงค่าบริการตามฤดูกาล โปรโมชัน ค่าบริการสำหรับกลุ่มคณะ และส่วนลดสำหรับผู้ที่เข้าพักเป็นประจำ และปรับใบแจ้งหนี้ไปตามความเหมาะสม

วิธียกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับโรงแรม

วิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับขั้นตอนการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดมีดังนี้

  • การผสานการทำงานของขั้นตอนการจอง: ผสานการทำงานระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณเข้ากับแพลตฟอร์มการจองหรือระบบการจัดการทรัพย์สินของโรงแรม เพื่อให้ขั้นตอนการจองและการชำระเงินรวมอยู่ในที่เดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าพักให้ข้อมูลการชำระเงินและจองที่พักไปพร้อมกันได้

  • การเรียกเก็บเงินที่โปร่งใส: ปรับใบเรียกเก็บเงินให้ชัดเจนและอ่านง่าย แยกค่าใช้จ่ายสำหรับราคาห้องพัก ภาษี บริการเพิ่มเติม และค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ ออกจากกันเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจชัดเจนว่าจ่ายเงินเป็นค่าอะไรบ้าง ให้ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์แบบละเอียด ไม่ว่าจะผ่านทางอีเมลหรือพอร์ทัลของผู้เข้าพัก เพื่อช่วยให้อ้างอิงและเก็บบันทึกได้ง่าย

  • ตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่น: ให้ผู้เข้าพักชำระเงินได้หลายวิธี (เช่น บัตรเครดิตและการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส) เพื่อรองรับความต้องการของผู้เข้าพักที่แตกต่างกันไป และนำเสนอวิธีการชำระเงินทางเลือก เช่น PayPal หรือการโอนเงินผ่านธนาคารให้กับผู้เข้าพักที่เป็นชาวต่างชาติ อนุญาตให้แบ่งชำระได้เพื่อให้ผู้เข้าพักหารกันจ่ายหรือใช้วิธีการชำระเงินที่แตกต่างกันไปสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ได้

  • พอร์ทัลแบบบริการตนเอง: ใช้พอร์ทัลออนไลน์หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ปลอดภัย ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ดูใบแจ้งหนี้ ชำระเงิน และจัดการการตั้งค่าการชำระเงินได้ตามที่ตนสะดวก

  • การสื่อสารเชิงรุก: ส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติให้กับผู้เข้าพักก่อน ระหว่าง และหลังการเข้าพัก พร้อมให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานะการเรียกเก็บเงิน การยืนยันการชำระเงิน และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ให้ใช้ข้อความแบบเฉพาะบุคคลเพื่อเรียกผู้เข้าพักด้วยชื่อ และให้ข้อมูลที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้เข้าพักรายนั้นๆ

  • การคืนเงินและการปรับเปลี่ยนตามเวลาที่เหมาะสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้นตอนในการจัดการการคืนเงินและการปรับเปลี่ยนนั้นรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ตอบข้อสงสัยจากผู้เข้าพักเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนหรือข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินได้ทันที

  • การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล: ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้เข้าพัก โดยปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในการคุ้มครองข้อมูลและการเข้ารหัส แจ้งความมุ่งมั่นที่ทางโรงแรมมีต่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลให้ชัดเจนในนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดการให้บริการ คอยอัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นประจำให้ก้าวล้ำนำหน้าภัยคุกคามต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

  • ข้อเสนอแนะและการปรับปรุง: ขอรับข้อเสนอแนะจากผู้เข้าพักอยู่เสมอเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียกเก็บเงินที่ได้รับโดยใช้แบบสำรวจ แบบฟอร์มให้ข้อเสนอแนะ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย ให้นำข้อเสนอแนะนี้ไปใช้ปรับปรุงขั้นตอนการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายและแนวทางแก้ไขสำหรับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติในอุตสาหกรรมการบริการ

ความท้าทายจะเกิดขึ้นมาบ้างเมื่อใช้ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่พบบ่อยและวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีดังนี้

ปัญหาในการผสานการทำงาน

การผสานการทำงานซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเข้ากับระบบการจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่หรือซอฟต์แวร์อื่นๆ ของโรงแรมอาจเป็นเรื่องยุ่งยากและใช้เวลานานเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับความเข้ากันได้หรือความไม่สอดคล้องกันของข้อมูล

แนวทางแก้ไข

  • เลือกซอฟต์แวร์ที่มีฟังก์ชันการผสานการทำงานและอินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน (API) ที่เหนือระดับ
  • ร่วมงานกับผู้ให้บริการที่ให้การสนับสนุนและการฝึกอบรมในการปรับใช้
  • ทำการทดสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะนำระบบการเรียกเก็บเงินไปใช้อย่างเต็มรูปแบบ

ข้อกังวลด้านความปลอดภัย

ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติจะจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้เข้าพัก เช่น รายละเอียดบัตรเครดิต การละเมิดการรักษาความปลอดภัยอาจส่งผลให้มีการสูญเสียทางการเงินและทำให้โรงแรมเสื่อมเสียชื่อเสียง

แนวทางแก้ไข

  • ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม เช่น การเข้ารหัส การแปลงเป็นโทเค็น และการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย
  • ปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการคุ้มครองข้อมูล (เช่น PCI DSS)
  • อัปเดตซอฟต์แวร์และโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยเป็นประจำเพื่อรับมือกับช่องโหว่ต่างๆ

การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

พนักงานอาจต่อต้านการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้หรือไม่คุ้นเคยกับระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้

แนวทางแก้ไข

  • จัดให้มีการฝึกอบรมแบบครอบคลุมแก่พนักงานและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
  • เน้นย้ำถึงประโยชน์ของการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • ค่อยๆ เริ่มนำระบบเข้ามาใช้ โดยเริ่มจากโปรแกรมนำร่องหรือการเปิดตัวแบบจำกัดจำนวนผู้ใช้งานก่อน

การหยุดทำงานของระบบ

ปัญหาทางเทคนิคหรือการหยุดทำงานของระบบอาจทำให้การเรียกเก็บเงินหยุดชะงักได้ ซึ่งจะส่งผลให้การประมวลผลการชำระเงินล่าช้าและทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกไม่สะดวก

แนวทางแก้ไข

  • เลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีประวัติที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าให้บริการได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดและช่วยเหลือลูกค้าได้รวดเร็ว
  • จัดให้มีแผนสำรอง เช่น ระบบสำรองหรือขั้นตอนแบบแมนนวล เพื่อลดการหยุดชะงักในระหว่างระยะเวลาหยุดทำงาน

ค่าใช้จ่าย

การใช้และบำรุงรักษาซอฟต์แวร์การเรียกเก็บเงินอัตโนมัติอาจมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะสำหรับโรงแรมขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด

แนวทางแก้ไข

  • เลือกตัวเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับงบประมาณของคุณ พิจารณาเลือกใช้โซลูชันบนระบบคลาวด์ ซึ่งมักมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต่ำกว่าและใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีภายในองค์กรน้อยกว่า
  • คำนึงถึงค่าแรงที่อาจจะประหยัดลงไปได้และข้อผิดพลาดที่น้อยลงเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจของคุณ

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมการบริการ

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดบางประการที่ช่วยให้คุณนำระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติไปใช้กับธุรกิจการบริการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้

  • ผสานการทำงานการตั้งราคาแบบไดนามิก: ผสานการทำงานระบบการเรียกเก็บเงินของคุณเข้ากับกลไกการตั้งราคาแบบไดนามิกที่ปรับราคาของคุณได้แบบเรียลไทม์ตามความต้องการ ปริมาณการเข้าพัก ราคาของคู่แข่ง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้นๆ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มรายรับที่เป็นไปได้ให้ถึงขีดสุดและทำให้คุณมีราคาที่แข่งขันในตลาดได้อยู่เสมอ

  • เลือกใช้การแปลงการชำระเงินเป็นโทเค็นขั้นสูง: มองหาซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมการแปลงการชำระเงินเป็นโทเค็นขั้นสูง ซึ่งจะแทนที่ข้อมูลบัตรที่ละเอียดอ่อนด้วยโทเค็นที่ไม่ซ้ำกัน วิธีนี้จะช่วยคุ้มครองข้อมูลของผู้เข้าพักและลดภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PCI ให้กับคุณ

  • ช่วยให้ขายต่อยอดและขายพ่วงได้แบบอัตโนมัติ: ใช้ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเพื่อแนะนำการอัปเกรด ส่วนเสริม หรือแพ็กเกจให้กับผู้เข้าพักอย่างชาญฉลาดในระหว่างขั้นตอนการจองหรือระหว่างการเข้าพัก โดยดำเนินการตามความต้องการของลูกค้า การซื้อที่ผ่านมา หรือห้องที่ผู้เข้าพักจองไว้โดยเฉพาะ

  • ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์กับการโต้แย้งการเรียกเก็บเงิน: ระบบขั้นสูงบางระบบจะใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อวิเคราะห์การโต้แย้งการเรียกเก็บเงินที่ผ่านๆ มา ค้นหารูปแบบ และแจ้งธุรกรรมที่อาจมีปัญหา วิธีนี้จะช่วยให้พนักงานของคุณแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะบานปลายเป็นการโต้แย้ง

  • เปิดให้ชำระเงินได้หลายช่องทาง: ผสานการทำงานระบบการเรียกเก็บเงินของคุณเข้ากับช่องทางการชำระเงินต่างๆ เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัล (เช่น Apple Pay, Google Pay) และการชำระเงินในแอป วิธีนี้จะช่วยให้รองรับความต้องการของผู้เข้าพักได้หลากหลายยิ่งขึ้นและเพิ่มอัตราการชำระเงินสำเร็จได้

  • ผสานการทำงานโปรแกรมสะสมคะแนน: หากคุณมีโปรแกรมสะสมคะแนน ให้ผสานการทำงานเข้ากับระบบการเรียกเก็บเงินเพื่อรองรับการสะสมคะแนนอัตโนมัติ การแลกรับ และข้อเสนอแบบเฉพาะตัวตามรูปแบบการใช้จ่าย วิธีนี้จะช่วยส่งเสริมให้กลับมาใช้บริการซ้ำและเพิ่มความพึงพอใจของผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี

  • ใช้แดชบอร์ดแบบเรียลไทม์: หากทำได้ ให้เลือกใช้ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติที่มาพร้อมแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้คุณเห็นภาพรวมสถานะการเรียกเก็บเงิน แนวโน้มของรายรับ และการชำระเงินที่ค้างชำระได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณทราบข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะลุกลามบานปลาย

  • จัดการการดึงเงินคืนโดยอัตโนมัติ: ระบบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติบางระบบอาจช่วยคุณคัดค้านการดึงเงินคืนโดยให้เอกสารที่จำเป็นแก่ธนาคารโดยอัตโนมัติ วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลาและลดผลกระทบทางการเงินที่เกิดจากการดึงเงินคืนได้

เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ

หากพร้อมเริ่มใช้งานแล้ว

สร้างบัญชีและเริ่มรับการชำระเงินโดยไม่ต้องทำสัญญาหรือระบุรายละเอียดเกี่ยวกับธนาคาร หรือติดต่อเราเพื่อสร้างแพ็กเกจที่ออกแบบเองสำหรับธุรกิจของคุณ
Billing

Billing

เรียกเก็บและรักษารายรับได้มากขึ้น ใช้วิธีอัตโนมัติกับขั้นตอนการจัดการรายรับ ตลอดจนรับการชำระเงินได้ทั่วโลก

Stripe Docs เกี่ยวกับ Billing

สร้างและจัดการการชำระเงินตามรอบบิล ติดตามการใช้งาน และออกใบแจ้งหนี้