ความท้าทาย

ตอนที่ Gonzalo Úrculo กลับไปที่ฟาร์มของครอบครัวที่ถูกทิ้งร้างในปี 2009 เขาตั้งใจว่าจะเริ่มอาชีพใหม่เป็นเกษตรกร โดยมองเห็นช่องทางที่จะนำธุรกิจใหม่นี้ไปสู่โลกออนไลน์และได้ร่วมมือกับ Gabriel ผู้เป็นพี่ชายเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ Naranjas del Carmen ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์สำหรับให้ผู้บริโภคซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากฟาร์มได้โดยตรง หลังจากนั้นไม่นาน เกษตรกรคนอื่นๆ ก็ขอให้สองพี่น้องช่วยทำให้ธุรกิจของตนเป็นดิจิทัลบ้าง ในท้ายที่สุด การเปลี่ยนธุรกิจเป็นดิจิทัลของพวกเขาก็เติบโตขึ้นเป็น CrowdFarming ซึ่งเป็นทางออกที่เน้นเกษตรกรเป็นหลักสำหรับปัญหาด้านประสิทธิภาพของซัพพลายเชน แพลตฟอร์มนี้เปิดให้ผู้บริโภคได้ซื้อผลิตผลออร์แกนิก (และขอรับต้นไม้) จากผู้ปลูกโดยตรง

โมเดลซัพพลายเชนแบบเดิมๆ มักจะมีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้องหลายฝ่าย เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต เกษตรกรจึงมักจะต้องรอนานถึง 120 วันจึงจะได้รับค่าผลผลิต ซึ่งก่อนหน้าที่จะขายได้ พวกเขาก็ลงทุนไปแล้วหนึ่งปีเต็มๆ ในการดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากที่ดินของตัวเอง CrowdFarming ต้องการวิธีง่ายๆ ในการจัดการเงินโดยหวังว่าจะช่วยให้เกษตรกรได้รับเงินเร็วขึ้น

แพลตฟอร์มนี้ซึ่งมีต้นกำเนิดในสเปนมองหาทางที่จะเติบโตไปสู่ตลาดระดับสากลให้เร็วขึ้นด้วยตัวเลือกการชำระเงินใหม่ๆ ตอนแรกพี่น้อง Úrculos เลือกใช้ Stripe เป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินสำหรับ Naranjas del Carmen และหลังจากได้เห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจ พวกเขาก็เลือก Stripe เป็นรากฐานสำหรับการชำระเงินของ CrowdFarming

โซลูชัน

เนื่องจาก CrowdFarming ก่อตั้งโดยเกษตรกรที่มีพื้นฐานในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล บริษัทจึงรู้ว่ายังมีด้านอื่นๆ ในธุรกิจที่อาจได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว แทนที่จะต้องสร้างใหม่ตั้งแต่ต้น "ในฐานะบริษัทผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เรารู้ดีว่าเราไม่ต้องพัฒนาทุกอย่างด้วยตัวเอง" Gonzalo Úrculo CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง CrowdFarming กล่าว "เราสามารถวางใจให้ Stripe จัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการเงินและมอบเครื่องมือที่จำเป็นให้แก่เกษตรกรและผู้บริโภค ส่วนเราก็สามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อลูกค้าของเรา"

แนวทางที่เน้นเทคโนโลยียังเป็นจุดเด่นที่ทำให้บริษัทแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่ในตลาดผลผลิตสำหรับผู้บริโภค นั่นก็คือซูเปอร์มาร์เก็ตของชำที่คุ้นตากันนั่นเอง "การหาลูกค้าอาจเป็นเรื่องยากถ้าคุณไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่ เราจึงต้องมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของเราทำงานได้ดีกว่าเว็บไซต์ของซูเปอร์มาร์เก็ต" Úrculo กล่าว "การที่เราสามารถนำเสนอตัวเลือกการชำระเงินมากขึ้นและสกุลเงินที่หลากหลายขึ้นพร้อมด้วย UX ที่ดูสบายตา ช่วยให้เราดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น"

Stripe Payments ช่วยให้ CrowdFarming สามารถขยายสกุลเงินที่มีให้บริการและวิธีการชำระเงินให้สามารถรับ PayPal และ SEPA (Single Euro Payments Area) ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ลูกค้าได้รับความยืดหยุ่นมากขึ้นในการชำระเงินด้วยวิธีที่ต้องการและปูทางให้บริษัทเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

การผสานการขยายนี้เข้ากับ Stripe Connect ทำให้ CrowdFarming สามารถช่วยให้เกษตรกรรับการชำระเงินจากลูกค้าในประเทศต่างๆ ได้ นอกจากนี้ Stripe Connect Express ยังเป็นโซลูชันที่ Stripe จะจัดการการเบิกจ่ายให้แก่เกษตรกรโดยตรง ดังนั้น CrowdFarming จึงสามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจของตนในขณะที่ Stripe ช่วยจัดการเรื่องการชำระเงินให้ "Stripe จะจัดการธุรกรรมผ่านบัตรระหว่างธนาคารถ้ามีผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรใช้เงินปอนด์ซื้อผลิตผลจากเกษตรกรในสเปน" Úrculo กล่าว "ระบบจะแปลงการชำระเงินเป็นเงินยูโรทันที ซึ่งทำให้ง่ายสำหรับเกษตรกร เราไม่ต้องจับเงินของเกษตรกรเลย ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับด้านการเงินต่างๆ"

เมื่อมีระบบการชำระเงินที่ดีขึ้นเป็นรากฐานแล้ว บริษัทก็ต้องการนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ในการขายให้แก่เกษตรกร CrowdFarming นำ Stripe Billing มาใช้เพื่อให้เกษตรกรสามารถเสนอการสมัครสมาชิกรายเดือนให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการได้รับผลิตผลอย่างสม่ำเสมอ การเสนอวิธีการเพิ่มเติมในการสั่งซื้อผลิตผลจากแพลตฟอร์มนี้ทำให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคมีทางเลือกและความยืดหยุ่นมากขึ้น

ผลลัพธ์

ช่วยให้เกษตรกรกว่า 300 รายได้รับเงินเร็วขึ้น 89%

เมื่อใช้ CrowdFarming เกษตรกรหลายร้อยคนสามารถจำหน่ายผลิตผลให้ผู้บริโภคได้โดยตรงและได้รับเงินภายใน 14 วัน ซึ่งเร็วกว่ากระบวนการชำระเงินของซัพพลายเชนแบบเดิมๆ ถึง 89% เกษตรกรเหล่านี้สามารถใช้บัญชี Stripe Connect ของตนจัดการการเบิกจ่าย จากนั้นเงินก็จะโอนเข้าบัญชีโดยตรงโดยไม่ต้องจัดการความสัมพันธ์กับบริษัทอื่น

การทำงานโดยตรงกับผู้บริโภคยังช่วยให้เกษตรกรอยู่รอดเมื่อเกิดภาวะแห้งแล้งในยุโรปใต้ที่ทำให้ผลผลิตบางชนิดลดลงถึง 70% แม้ผลผลิตจะลดลง แต่ CrowdFarming กลับโตขึ้นถึง 25% ด้วยการช่วยให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงผู้บริโภคและจำหน่ายผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประหยัดต้นทุนในการหาลูกค้าลงถึง 8% โดยเฉลี่ยด้วยตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายขึ้น

นับตั้งแต่เสนอวิธีการชำระเงินอย่าง PayPal และ SEPA ในตลาดเยอรมันของ CrowdFarming บริษัทได้ลดค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าลงถึง 8% และลดได้ 5% ในสวีเดนหลังจากเสนอ Klarna และบริษัทยังมีการสนับสนุนลูกค้าเพิ่มเติมจาก Stripe Payments มาให้บริการอีกด้วย

"หากลูกค้าใส่หมายเลขผิดหรือใช้บัตรที่หมดอายุ เขาจะได้รับข้อความโดยตรงจาก Stripe ที่ระบุสิ่งที่ต้องทำเพื่อแก้ปัญหานั้น" Úrculo กล่าว "ระบบจะแปลข้อความนั้นให้ผู้ใช้ของเราโดยอัตโนมัติ และเส้นทางผู้ใช้ที่ราบรื่นนี้ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในเว็บไซต์ของเรามากขึ้น"

เปิดตัวบริการแบบสมัครสมาชิกได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 เดือน

Stripe Billing ช่วยให้ CrowdFarming สามารถมอบบริการแบบสมัครสมาชิก Discovery Fruit Box แก่เกษตรกรและผู้บริโภค โดยบริการนี้เปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลไม้เป็นกล่องจากทั่วยุโรปได้เป็นรายเดือน "เราเกิดไอเดียเกี่ยวกับ Discovery Fruit Box ในเดือนพฤษภาคม และบริการนี้ก็เริ่มทำงานได้ภายในไม่ถึง 3 เดือน" Úrculo กล่าว "การชำระเงินตามตามรอบบิลช่วยให้บริการนี้เป็นรูปเป็นร่างได้อย่างรวดเร็วเพราะเราสามารถตั้งค่าการชำระเงินแบบตามแผนล่วงหน้าได้ง่ายมาก"

การสั่งซ้ำนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถขยายการขายผลผลิตออร์แกนิกให้ผู้บริโภคโดยตรงทั่วยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่เพียงเท่านี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายการเติบโตระดับสากลไปทั่วทวีปและในสหรัฐอเมริกาเพื่อสนับสนุนเกษตรกรทั่วโลกอีกด้วย