ความท้าทาย
ในฐานะบริษัทขนาดเล็กที่มีทีมวิศวกรไม่ใหญ่นัก Wonderbly จึงต้องการความมีประสิทธิภาพในทุกด้านของธุรกิจ ส่วนในเรื่องของการชำระเงิน ทีมตระหนักดีว่าจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินให้ได้มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการลดภาระงานของวิศวกรลง Wonderbly ต้องการประสบการณ์การชำระเงินที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนและสามารถรับมือกับขั้นตอนการชำระเงินที่ซับซ้อนโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุมใหม่ของยุโรป
โซลูชัน
เมื่อ Wonderbly อัปเกรดประสบการณ์การชำระเงินในปี 2019 บริษัทได้เลือกใช้ Checkout ซึ่งเป็นหน้าชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพในระบบของ Stripe ซึ่ง Stripe Checkout ก็ได้ช่วยประหยัดเวลาให้กับทีมวิศวกรของ Wonderbly ได้หลายสัปดาห์ด้วยการทำให้กระบวนการผสานการทำงานและการดูแลรักษาเป็นไปอย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกันก็ให้ความมั่นใจว่า Stripe จะพยายามเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินอยู่ตลอดเวลา Wonderbly สามารถเพิ่มการรองรับ Apple Pay, Google Pay, รหัสโปรโมชัน และประสบการณ์การชำระเงินที่เหมาะกับประเทศลูกค้าได้ในทันทีที่เริ่มใช้งาน
ผลลัพธ์
ก่อนที่จะเปิดตัว Checkout ทาง Wonderbly ได้สร้างการทดสอบ A/B เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ และสเปน ซึ่งบริษัทพบว่าอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินในสองประเทศนี้เพิ่มขึ้น 3.2% และ 10.6% ตามลำดับเมื่อเทียบกับหน้าชำระเงินที่บริษัทสร้างขึ้นมาเอง ข้อมูลนี้ทำให้ Wonderbly มีความมั่นใจที่จะเปลี่ยนจากขั้นตอนการชำระเงินแบบปรับแต่งเองมาใช้ Stripe Checkout และนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 เป็นต้นมา Wonderbly ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Checkout ตลอดมาและอัตราการเปลี่ยนเป็นผู้ใช้แบบชำระเงินก็เพิ่มขึ้นทุกปี
Stripe เปิดตัวฟีเจอร์และการเพิ่มประสิทธิภาพใหม่ๆ ใน Checkout อยู่เรื่อยๆ เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้าให้ได้มาตรฐานระดับโลก เราไม่มีทรัพยากรที่จะทำเช่นนั้นได้ด้วยตัวเอง แต่ Checkout ก็ช่วยแบ่งเบาภาระไปได้มาก