ความท้าทาย
Shueisha ได้พลิกโฉมคุณค่าของมังงะจากที่ถูกมองว่าเป็นความบันเทิงราคถูกให้กลายเป็นงานศิลปะที่เป็นที่ต้องการของแฟนๆ และนักสะสมระดับไฮเอนด์ โปรเจ็กต์ SMAH ผสานเทคนิคการพิมพ์แบบดั้งเดิม เช่น การพิมพ์แบบเลตเตอร์เพรสและ Collotype เข้ากับเทคโนโลยี NFT บล็อกเชน ซึ่งจะรับรองว่างานพิมพ์นั้นเป็นของแท้และสืบประวัติของผลงานดังกล่าว และเพื่อรับประกันคุณภาพของผลงานเหล่านี้ การพิมพ์แต่ละครั้งจะพิมพ์ไม่เกิน 20 ชิ้น โดยจะคัดเลือกผู้ซื้อด้วยล็อตเตอรี่
ผลงานมังงะของ Shueisha ซึ่งประกอบไปด้วยตัวละครที่โด่งดังไปทั่วโลกมีการให้สิทธิ์ในกว่า 100 ประเทศและ 20 ภาษา Shueisha นำเสนอรูปแบบทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครนี้ไปทั่วโลกทั้งในแบบดิจิทัลและแบบจับต้องได้ ซึ่งรวมถึงนิทรรศการศิลปะ ภาพยนตร์ และวิดีโอเกม Masashi Okamoto ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกธุรกิจดิจิทัลของ Shueisha บอกว่า "มังงะซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะญี่ปุ่นอันเป็นที่รักมากที่สุดเป็นตัวเชื่อมตต่อระหว่างอดีตกับอนาคต เราจะดีใจมากถึง SMAH ได้เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างญี่ปุ่นกับคนทั้งโลก"
ตอนที่ Shueisha คิดที่จะขยายโปรเจ็กต์ SMAH ไปทั่วโลก บริษัทพิจารณาการส่งคำขอส่งเงินให้ผู้ซื้อด้วยตัวเอง แต่กระบวนการนี้ดำเนินการได้ยาก Shueisha จึงนำเอากลยุทธ์ "ใช้คอมพิวเตอร์จัดการ" ที่เรียบง่ายที่สุดมาใช้ และเนื่องจากผลงานศิลปะเป็นที่ต้องการไปทั่วโลก Shueisha จึงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้อย่างสูงมาจัดการกับการชำระเงินในสกุลเงินต่างประเทศหลายสกุล
โซลูชัน
Shueisha ร่วมมือกับ Stripe เพื่อมอบวิธีการชำระเงินหลากหลายวิธีอย่างปลอดภัยในกว่า 130 สกุลเงิน Stripe มอบการสนับสนุนลูกค้าและ API ที่รวดเร็วและเรียบง่ายในช่วงการพัฒนา โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของ SMAH ด้วยการใช้ระบบการชำระเงินอัตโนมัติและการสร้างแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายซึ่งจะแสดงสถานะของการชำระเงินจากลูกค้าทั่วโลก
ผลลัพธ์
SMAH ได้รับยอดขายทั่วโลกแล้วกว่า $2.5 ล้านนับตั้งแต่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stripe การสนับสนุนลูกค้าและ API ของ Stripe ช่วยกำจัดข้อผิดพลาดโดยมนุษย์และย่นระยะเวลาในการพัฒนาได้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนระบบชำระเงินให้เป็นอัตโนมัติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย Stripe ช่วยให้พนักงานของ Shueisha ทำงานน้อยลงและลดค่าใช้จ่ายได้
Okamoto ยังพูดถึงการที่แดชบอร์ดของ Stripe ช่วยให้ Shueisha เข้าใจการเติบโตของธุรกิจและแนวโน้มสำหรับ SMAH อีกด้วย "แพลตฟอร์มของ Stripe ช่วยให้เรายืนยันการชำระเงินได้แบบเรียลไทม์ เราให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำความเข้าใจแนวโน้มของลูกค้าและปัญหาที่ลูกค้าประสบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่เราได้เห็นตัวเลขยอดขายแต่ละวันในตารางและกราฟก็ช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้เราอยากประสบความสำเร็จได้อีกด้วย"
Stripe ช่วยให้เราสามารถลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์และต้นทุนโดยรวม นอกจากนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมที่รับการชำระเงินผ่านบัตรจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศได้อย่างง่ายดายยังทำให้แฟนๆ และนักสะสมศิลปะมังงะในต่างประเทศซื้อศิลปะมังงะได้อีกด้วย ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และอีกหลายประเทศ ตอนนี้เรามียอดขายรวมเกิน 2.5 ล้านดอลลาร์แล้ว