ปัญหา
reMarkable นำผลิตภัณฑ์ชื่อเดียวกับบริษัทเข้าสู่ตลาดก่อนเปิดตัวจริง ซึ่งช่วยให้สามารถวัดความสนใจในตลาดได้ก่อนที่จะเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทต้องการแพลตฟอร์มการชำระเงินที่สามารถผสานการทำงานได้อย่างรวดเร็วในช่วงก่อนเปิดตัว โดยต้องมาพร้อมประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับจัดการคำสั่งซื้อแบบปกติและตรวจจับการฉ้อโกงได้หลังจากเปิดตัวแล้วเพื่อให้ประสบความสำเร็จได้ตามที่ตั้งเป้าหมาย ปกติแล้วผลิตภัณฑ์แบบสั่งซื้อล่วงหน้ามักจะไม่ค่อยตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพ เนื่องจากเจ้าของบัตรเครดิตจะสังเกตเห็นการชำระเงินที่เป็นการฉ้อโกงก่อนที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการจัดส่ง reMarkable จึงต้องการใช้ฟีเจอร์ป้องกันการฉ้อโกงในทันทีที่เปิดรับคำสั่งซื้อแบบปกติ
วิธีแก้ปัญหา
Stripe ช่วยให้ reMarkable ผสานรวมฟีเจอร์ในช่วงก่อนเปิดตัวได้สำเร็จในเวลาอันสั้น ทั้งยังมอบประโยชน์อื่นๆ จากฟีเจอร์แบบสำเร็จรูปอย่างการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ PSD2 และการตรวจจับการฉ้อโกงทันทีที่เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตามปกติ ซึ่ง Radar ที่เป็นเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงอัจฉริยะของ Stripe จะใช้ข้อมูลจากหลายพันล้านแหล่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับการฉ้อโกงโดยไม่ต้องบล็อกลูกค้าที่ตั้งใจซื้อผลิตภัณฑ์จริงๆ นอกจากนี้ความสามารถในการสร้างกฎที่ออกแบบเองใน Radar ยังช่วยให้ reMarkable ปรับแต่งการป้องกันการฉ้อโกงได้ตามแนวโน้มที่สังเกตเห็นอีกด้วย
ผลลัพธ์
"เมื่อเปลี่ยนจากการสั่งซื้อล่วงหน้ามาจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง เราก็พบว่าคำสั่งซื้อที่เป็นการฉ้อโกงเพิ่มขึ้นอย่างมากตามที่คาดไว้ และความสามารถของ Stripe Radar ในการตรวจจับการฉ้อโกงจำนวนมากก็ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้แก่บริษัทของเรา" Sigurd Gran-Jansen รองประธานฝ่ายการตลาดของ reMarkable กล่าว ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าจาก Stripe ที่ทำงานร่วมกับ reMarkable ช่วยแนะนำทีมเกี่ยวกับการปรับแต่งวิธีตรวจจับการฉ้อโกงอย่างต่อเนื่องจนตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ และ Radar จะค่อยๆ ปรับปรุงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องพร้อมกับปรับตามรูปแบบการฉ้อโกงที่เปลี่ยนไป รวมทั้งยังใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงที่ปรับให้เข้ากับธุรกิจของ reMarkable และโปรไฟล์ของผู้ใช้
reMarkable ประหยัดเวลาของนักพัฒนาไปได้อย่างมาก
แม้ว่า reMarkable จะเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการภายนอกเพียงไม่กี่ราย แต่บริษัทก็ทราบว่าการทำงานร่วมกับ Stripe จะช่วยปรับปรุงขั้นตอนการชำระเงินให้ดีขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการสร้างระบบขึ้นมาเองภายใน ซึ่ง API ที่ดีที่สุดรวมทั้งเอกสารประกอบที่ชัดเจนและครบถ้วนของ Stripe ช่วยลดความซับซ้อนในการผสานการทำงานของนักพัฒนาที่ reMarkable ได้อย่างมากในทุกขั้นตอน การใช้ Stripe ช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าไปได้หลายชั่วโมง ทำให้นักพัฒนาสามารถดูแลโครงการที่สำคัญกว่าได้อย่างเต็มที่
Stripe เป็นแหล่งข้อมูลด้านการขายเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท
แดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายและช่วยเสริมการทำงานของระบบชำระเงินของ Stripe ช่วยให้ reMarkable สำรวจและส่งออกข้อมูลให้กับผู้มีส่วนร่วมรายหลักๆ ในแผนกอื่นได้ ซึ่งฟังก์ชันที่ทรงประสิทธิภาพของ Stripe ทำให้ reMarkable ใช้เมตริกการชำระเงินเป็นตัวระบุประสบการณ์ของลูกค้าและประสิทธิภาพทางการเงินแบบเรียลไทม์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลได้ดีขึ้น
การผสานการทำงานที่ง่ายดายของ Stripe ช่วยประหยัดเวลาของนักพัฒนาได้อย่างมาก และที่สำคัญยังช่วยประหยัดเวลาของแผนกอื่นๆ ได้ด้วย Stripe สร้างขึ้นมาด้วยวิธีการแบบองค์รวม ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรายหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการตลาด การบัญชี หรือการเงินก็จะได้รับข้อมูลที่ต้องการเพื่อประกอบการตัดสินใจและสร้างรายรับให้มากขึ้น