การชำระเงินมีความสำคัญกับลูกค้า Salesforce อย่างไร
Salesforce Payments ช่วยให้ลูกค้าขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น ตอนนี้บริษัทต่างๆ รับการชำระเงินข้ามประเทศได้แล้ว จึงสามารถเปิดหน้าร้านในต่างประเทศได้ นอกจากนี้ยังลดความซับซ้อนของกระบวนการทางการเงิน เรามีลูกค้าที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพใบแจ้งยอดธุรกรรมเพื่อให้การทำงานง่ายขึ้นและพนักงานก็มีเวลาไปมุ่งเน้นกับการทำงานที่มีความสำคัญมากขึ้น เช่น การจัดการการฉ้อโกงและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
คุณคิดว่า Salesforce Payments ที่เพิ่งเปิดตัวช่วยลูกค้าในกระบวนการชำระเงินอย่างไรบ้าง
ขอผมเริ่มด้วยการยกตัวอย่าง ผู้ค้ารายหนึ่งของเราซึ่งเป็นมาร์เก็ตเพลสสินค้าหรูระดับไฮเอนด์ในสหรัฐอเมริกาบอกว่ายอดคำสั่งซื้อเฉลี่ยมีจำนวนสูงขึ้นกว่าผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซแบบเดิม และผู้บริโภคของลูกค้ารายนี้ก็เรียกร้องอยากได้ตัวเลือกการชำระเงินที่ยืดหยุ่นมานาน เมื่อใช้ Salesforce Payments ตอนนี้ผู้ค้าสามารถมอบตัวเลือกที่ยืดหยุ่นมากขึ้นให้แก่ผู้ที่ซื้อสินค้าของตน
อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ Palermo’s Pizza ซึ่งเป็นลูกค้าของเราต้องการที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เนื่องจากธุรกิจนี้มีการเข้าถึงลูกค้าอย่างกว้างขวางทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก เมื่อธุรกิจเริ่มใช้แนวทางเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง ลูกค้าก็ต้องการโซลูชันที่มีตัวเลือกการชำระเงินเพิ่มเติม เช่น Apple Pay เพื่อมอบตัวเลือกที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดด้วยวิธีที่เชื่อถือได้
คุณมีเป้าหมายยอดขายของลูกค้าในแง่ของนวัตกรรมการชำระเงินอย่างไรในปีหน้า
ลูกค้าของเราต่างกำลังมองหาทางที่จะเพิ่มยอดขายโดยใช้ต้นทุนน้อยลง พวกเขาต้องการใช้จ่ายน้อยลงแต่ยังคงขยายธุรกิจและช่วยเหลือลูกค้าของตนต่อไป เรามุ่งเน้นไปที่การช่วยให้บริษัทต่างๆ ดำเนินธุรกิจ สร้างยอดขาย และรับการชำระเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงการขยายไปสู่พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ โดยการเปิดหน้าร้านออนไลน์
แต่เดิม การขยายนี้จะต้องใช้เทคโนโลยี การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ และการทำสัญญาใหม่เพื่อเตรียมผู้ประมวลผลการชำระเงินรายใหม่ แต่ Salesforce ช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นด้วยการใช้หน้าร้าน Commerce Cloud ใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราเติบโตต่อไปแม้จะมีความไม่แน่นอนและความผันผวนในปัจจุบัน
เรามุ่งเน้นไปที่การช่วยให้บริษัทต่างๆ ทำธุรกิจ สร้างยอดขาย และรับการชำระเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงการขยายไปสู่พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ใหม่ๆ โดยการเปิดหน้าร้านออนไลน์
Commerce Cloud ของ Salesforce แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
เรามีผู้ใช้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Salesforce จำนวนมากทั่วโลกซึ่งเป็นผู้นำในการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Salesforce เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "ผู้บุกเบิก" ซึ่งอาจอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่ที่เราทำงานด้วย รวมไปถึงผู้ที่ทำงานอยู่หน้าร้าน Salesforce Commerce Cloud ช่วยให้ผู้ใช้เหล่านี้ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขั้นตอนการค้นพบไปจนถึงการส่งมอบในรูปแบบใหม่เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดในการขายสินค้าหรือนำเสนอบริการ เราพบว่าลูกค้าของเรามีการเติบโตอย่างประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนวิธีมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าปลายทางด้วยการใช้ Commerce Cloud ควบคู่กับโซลูชันการจัดการและการชำระเงินของเรา
Salesforce เห็นลูกค้าเปลี่ยนไปใช้โซลูชันแบบครบช่องทางบ้างไหมในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เราเห็นว่าลูกค้าเกือบทุกประเภทเปลี่ยนไปใช้โซลูชันแบบครบช่องทาง ลูกค้า Salesforce แบบมีหน้าร้านกำลังเข้าสู่โลกออนไลน์เป็นครั้งแรก ขณะที่ลูกค้าแบบ B2B เช่นบริษัทผู้ผลิตที่จำหน่ายให้ผู้ผลิตรถยนต์เป็นหลัก ก็กำลังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ธุรกิจต่างๆ กำลังเริ่มใช้ช่องทางใหม่ๆ และพึ่งพาเทคโนโลยีล่าสุดในการสร้างกระแสรายได้เพิ่มเติมเพื่อมอบบริการให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การทำงานกับธุรกิจขนาดใหญ่มีความแตกต่างหลักๆ จากการทำงานกับผู้ค้ารายย่อยอย่างไร
เริ่มที่ความไว้ใจและขนาด องค์กรเหล่านี้มักจะทำธุรกิจในหลายที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และหลายภูมิภาคซึ่งมีชุดข้อกำหนดทางกฎหมายที่ซับซ้อนทั้งในด้านการรับการชำระเงิน การจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ และการสื่อสารกับผู้ซื้อ เราต้องการที่จะมั่นใจได้ว่าธุรกิจเหล่านี้จะยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบและทำตามข้อกฎหมายเหล่านี้ในระดับที่ต้องการ
เราพบว่าลูกค้าของเรามีการเติบโตอย่างประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนวิธีมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าปลายทางด้วยการใช้ Commerce Cloud ควบคู่กับโซลูชันการจัดการและการชำระเงินของเรา
เป้าหมายสำคัญที่ Salesforce ต้องการทำให้สำเร็จในช่วง 5 ปีข้างหน้าคืออะไร
เราให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น เราได้ให้คำมั่นสัญญาที่จะสนับสนุนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเจริญเติบโตของต้นไม้กว่า 50 ล้านต้น โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ให้ได้ 100 ล้านต้น Salesforce อยู่ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งความพยายามนี้และสามารถช่วยเหลือส่วนที่ถูกตัดไม้ทำลายป่าบนโลกของเราได้ นอกจากนี้เรายังมีขบวนการ Pledge 1% ซึ่งบริษัทต่างๆ กว่า 15,000 แห่งจากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมกับเราในการมอบเวลา 1%, กรรมสิทธิหุ้น 1% และผลิตภัณฑ์ 1% ของตนให้แก่องค์กรไม่แสวงผลกำไร
คุณคิดว่าค่านิยมของ Salesforce กับ Stripe มีความสอดคล้องกันเป็นพิเศษในด้านใด
เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ Stripe ในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านกลยุทธ์สำหรับ Salesforce Payments เราร่วมมือกับ Stripe เนื่องจาก Stripe เป็นผู้ให้บริการการชำระเงินที่น่าเชื่อถือสำหรับเศรษฐกิจระบบใหม่ โดยเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นระบบดิจิทัลซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น โครงสร้างพื้นฐานของ Stripe ช่วยให้เราคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ การร่วมมือกันระหว่างทั้งสองทีมทั้งในระดับผลิตภัณฑ์ การตลาด และธุรกิจทำให้เราส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว
หากมองไปในอนาคต Stripe กับ Salesforce จะทำอย่างไรเพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ใช้ของเราอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ลูกค้าหลายๆ รายอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลในด้านการชำระเงินและกำลังเรียนรู้ว่าการชำระเงินจะทำอะไรให้กับธุรกิจของตนได้บ้าง ลูกค้าอาจยังไม่เข้าใจว่าการชำระเงินจะมีผลต่อธุรกิจในภาพรวมอย่างไรในส่วนตั้งแต่ต้นทุนไปจนถึงคอนเวอร์ชันและการชำระเงิน เราจึงทำงานร่วมกับ Stripe เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ด้านการเงินประเภทใหม่ๆ และนำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในระบบนิเวศของ Saleforce
หากพูดถึงการร่วมมือกับ Stripe ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความรู้แก่ลูกค้าของเราเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ต่อไปเพื่อสนับสนุนลูกค้าในการสร้างเหตุผลทางธุรกิจและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง
Salesforce เป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีใน Stripe Partner Ecosystem. Learn more at https://stripe.com/customers/salesforce
เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ Stripe ในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านกลยุทธ์สำหรับ Salesforce Payments เราร่วมมือกับ Stripe เนื่องจาก Stripe เป็นผู้ให้บริการการชำระเงินที่น่าเชื่อถือสำหรับเศรษฐกิจระบบใหม่ โดยเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เน้นระบบดิจิทัลซึ่งมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่น