ความท้าทาย
บริษัทใช้ Nikkei ID เป็นสื่อกลางเดียวสำหรับเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ โดยสมาชิกสามารถสมัครรับข้อมูลที่เผยแพร่และเนื้อหาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ได้ เช่น Nikkei Channel Markets และ Nikkei xTECH รวมถึงลงทะเบียนเข้าร่วมงานกิจกรรมและการสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวกับการวางแผนอาชีพ การเงินส่วนบุคคล และการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ
ทว่าการลงทะเบียนยังคงเป็นขั้นตอนที่ยากลำบาก เนื่องจากผู้ใช้เป้าหมายจะต้องกรอกข้อมูลจำนวนมาก และระบบก็รองรับเฉพาะการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ทำให้มีอัตราการเลิกสมัครใช้งานกลางคันสูง แม้แต่ในกลุ่มคนที่สนใจใช้บริการมากก็ตาม
โซลูชัน
Nikkei จึงตัดสินใจปรับประสบการณ์ให้ง่ายขึ้น โดยเปิดรับ Apple Pay และใช้วิธีการชำระเงินใหม่ผ่าน Stripe แทนที่จะปรับกลไกการเรียกเก็บเงินที่มีอยู่เอง ซึ่งวิธีนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านวิศวกรรมจำนวนมาก
"Stripe มีชื่อเสียงอย่างมากมาโดยตลอดในชุมชนด้านวิศวกรรม และผมสนใจในบริษัทนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว บริการของ Stripe สามารถขยายขอบเขตการใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้เรานำเสนอแพ็กเกจการเรียกเก็บเงินที่ยืดหยุ่นได้ด้วย" Masao Saga ผู้จัดการ (รักษาการแทน) แผนกธุรกิจแพลตฟอร์มของ Nikkei
ผลลัพธ์
Nikkei ผสานการทำงานกับ Stripe Payments และ Stripe Billing ได้ในเวลา 6 เดือน กระบวนการดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ส่งผลให้บริษัทมีตัวเลือกการชำระเงินที่ครบถ้วนมากกว่าผู้ประมวลผลการชำระเงินรายอื่นๆ ขณะนี้ Nikkei ก็มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการในอนาคตแล้ว
ขณะนี้ Nikkei สามารถนำเสนอการปรับแต่งบริการที่ซับซ้อน อย่างช่วงทดลองใช้ฟรีและระยะผ่อนผันสำหรับกรณีที่ชำระเงินไม่สำเร็จ ตลอดจนได้รับประโยชน์ในด้านอื่นๆ อย่างรูปลักษณ์ของแดชบอร์ดที่เข้าใจง่ายซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้ และช่วยให้ Nikkei ไม่ต้องสร้างระบบจัดการแยกออกมาเพื่อให้บริการลูกค้า
Stripe มีบทบาทที่โดดเด่นในชุมชนวิศวกรรมมาโดยตลอดและโดยส่วนตัวผมก็มีความสนใจในบริษัทนี้เป็นอย่างมาก บริการของ Stripe นั้นมีความสามารถในการขยับขยายได้เป็นอย่างสูงและจะช่วยให้เรานำเสนอแผนการเรียกเก็บเงินที่ยืดหยุ่นได้