ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลของไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว การชําระเงินออนไลน์ได้กลายมาเป็นส่วนสําคัญในชีวิตประจําวัน การเติบโตนี้ส่งผลให้เกตเวย์การชําระเงินมีความสําคัญและแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจทุกประเภทต้องมีระบบที่สามารถอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ในประเทศไทยมีบริการเกตเวย์การชําระเงินที่หลากหลายให้เลือก โดยแต่ละแห่งมีอัตราค่าธรรมเนียมและข้อกําหนดการให้บริการที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรทําความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชําระเงิน เพื่อวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพและเลือกบริการที่เหมาะสมที่สุดที่ตรงกับความต้องการในการทําธุรกรรมทางการเงินของตนมากที่สุด
บทความนี้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
- ค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชําระเงิน
- วิธีคํานวณค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชําระเงิน
- ประโยชน์ของการเรียนรู้เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชําระเงิน
- ข้อมูลสรุปเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมเกตเวย์การชําระเงินในประเทศไทย
ค่าธรรมเนียม Payment Gateway
ค่าธรรมเนียมหลักของ Payment Gateway หรือ เกตเวย์การชําระเงิน ในประเทศไทยอาจมีความแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละราย โดยหลักๆ จะมีค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าติดตั้งระบบ: เป็นค่าธรรมเนียมเริ่มต้นสำหรับการติดตั้งระบบ Payment Gateway เข้ากับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ ผู้ให้บริการบางรายอาจไม่มีค่าติดตั้ง หรืออาจยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้
- ค่าธรรมเนียมรายเดือน: เป็นค่าธรรมเนียมประจำทุกเดือนสำหรับดูแลระบบ Payment Gateway ค่าธรรมเนียมนี้อาจครอบคลุมถึงบริการด้าน IT และการอัปเดตระบบ
- ค่าธรรมเนียมต่อรายการ: ค่าธรรมเนียมนี้ถูกเรียกเก็บต่อการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง โดยทั่วไปจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดการซื้อขาย เช่น 1.5 –3.5% ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละราย
- ค่าธรรมเนียมการคืนเงิน: หากมีการขอคืนเงิน ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกเรียกเก็บสำหรับดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้า
- ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน: หากมีการทำธุรกรรมกับลูกค้าต่างประเทศ บางระบบจะแปลงสกุลเงินโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามแต่ที่กำหนด และอาจมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท
- ค่าธรรมเนียมแฝง: นอกจากค่าธรรมเนียมที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ผู้ให้บริการ Payment Gateway บางรายอาจมีอัตราดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมแฝงอื่นๆ ที่ควรระวัง เช่น อัตราดอกเบี้ยจากการผ่อนชำระ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับบริการเสริมอื่นๆ
วิธีคำนวณค่าธรรมเนียมของระบบ Payment Gateway
วิธีคำนวณค่าธรรมเนียมขั้นพื้นฐานในการชำระเงินผ่าน Payment Gateway ในประเทศไทย มีขั้นตอนดังนี้
คำนวณค่าธรรมเนียมต่อรายการ
วิธีพื้นฐานในการคำนวนค่าธรรมเนียมต่อรายการมี 2 สิ่งหลักที่ต้องคำนึงถึง คือ
- ค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ จากยอดชำระเงิน เช่น ค่าธรรมเนียมการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต อยู่ที่ประมาณ 2 –3% ต่อรายการ
- ค่าธรรมเนียมแบบคงที่ต่อรายการ เช่น ค่าธรรมเนียมการชำระเงินผ่าน QR Code หรือ Mobile Banking อยู่ที่ประมาณ 10 –15 บาทต่อรายการ
สามารถใช้สูตรนี้เพื่อหาค่าธรรมเนียมรวมต่อรายการ:
(ยอดชำระ x อัตราค่าธรรมเนียม) + ค่าธรรมเนียมคงที่ = ค่าธรรมเนียมรวมต่อรายการ
เช่น มียอดชำระเงิน 1,000 บาท โดยระบบ Payment Gateway เรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียม 2.5% และค่าธรรมเนียมคงที่ 10 บาท
คำนวณค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์:
฿1,000 × 0.025 = ฿25
บวกค่าธรรมเนียมคงที่:
฿25 + ฿10 = ฿35
ดังนั้น ค่าธรรมเนียมรวมต่อรายการจะเท่ากับ 35 บาท
คำนวณค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน
วิธีพื้นฐานในการคำนวนค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินมี 2 จำนวนหลักที่ต้องคำนึงถึง คือ
- ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 2 –3% ของจำนวนยอดเงินทั้งหมดที่มีการแปลงสกุลเงิน
- อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ผู้ให้บริการ Payment Gateway จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนในการแปลงสกุลเงินที่แตกต่างกันไปตามแต่ที่ผู้ให้บริการกำหนด เช่น 35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
สามารถใช้สูตรนี้เพื่อหาค่าธรรมเนียมในการแปลงสกุลเงิน:
(ยอดเงินต้น x อัตราแลกเปลี่ยน ) x เปอร์เซ็นต์ค่าธรรมเนียมการแปลง = ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน
เช่น มีการชำระเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ และต้องการแปลงเป็นสกุลเงินบาท อัตราแลกเปลี่ยนที่ผู้ให้บริการ Payment Gatewayใช้คือ 35 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินคิดอยู่ที่ 3%
คำนวณยอดเงินต้นเป็นสกุลบาท:
฿100 × ฿35 = ฿3,500
คำนวณค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน:
฿3,500 × 3% = ฿105
ดังนั้น ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินจะเท่ากับ 105 บาท
โดยยอดเงินรวมที่ต้องชำระหลังการแปลงสกุลเงินจะเท่ากับ ค่าธรรมเนียมบวกกับยอดเงินต้น:
฿3,500 + ฿105 = ฿3,605
ประโยชน์ของการศึกษาค่าธรรมเนียม Payment Gateway
เนื่องจากผู้ให้บริการ Payment Gateway แต่ละรายมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมจึงมีความสำคัญมาก เพราะบางรายอาจเสนอค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำแต่มีค่าบริการเสริมมากมายหรือมีเงื่อนไขการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ต่อไปนี้คือตัวอย่างประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำความเข้าใจและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมแต่ละรายอย่างรอบคอบ
ตอบโจทย์ทางธุรกิจ
ธุรกิจแต่ละประเภทมีความต้องการที่ต่างกัน เช่น ธุรกิจขนาดเล็กอาจต้องการเลือกใช้บริการที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่อาจต้องการเลือกใช้บริการที่โอนเงินได้รวดเร็วและปลอดภัยโดยที่ค่าธรรมเนียมถือเป็นเรื่องรอง
การเข้าใจค่าธรรมเนียมช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือก Payment Gateway ที่ตรงกับการใช้งานและความต้องการของธุรกิจ Stripe ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ระดับโลก พร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและโซลูชันการชำระเงินที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ธุรกิจสตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่ระดับโลก
ลดต้นทุน
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดค่าธรรมเนียม เช่น ค่าธรรมเนียมต่อรายการ ไปจนถึงค่าธรรมเนียมแอบแฝงต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างไม่เกินความจำเป็น ซึ่งจะส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของธุรกิจได้
ป้องกันภาระค่าใช้จ่ายแอบแฝง
Payment Gateway บางรายอาจมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินกลับบัญชี หรือค่าบริการฟีเจอร์พิเศษ เช่น การสร้างรายงานการขาย หรือการดูแลบัญชีผู้ใช้งาน การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมจะช่วยป้องกันโอกาสการเกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
Stripe คิดค่าบริการตามการใช้งานแบบไม่ซับซ้อน สมเหตุสมผลสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่มีค่าธรรมเนียมการตั้งค่า ค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือค่าธรรมเนียมแอบแฝง
รองรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
สำหรับธุรกิจที่มีการทำธุรกรรมข้ามประเทศเป็นส่วนใหญ่ การศึกษาค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ช่วยให้สามารถวางแผนรับมือกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงและทำให้รายได้จากการขายได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น
Stripe สามารถช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนในการจัดการหลายสกุลเงินด้วยตัวเลือกการชำระเงินข้ามพรมแดนที่ยืดหยุ่น พร้อมให้บริการใน 195 ประเทศและมากกว่า 135 สกุลเงิน Stripe มีตัวแทนรับชำระเงินที่ทำงานกับธนาคารโดยตรงและมาพร้อมความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดนั้นๆ เป็นอย่างดี
บทสรุปค่าธรรมเนียม Payment Gateway ในประเทศไทย
ก่อนเลือกใช้บริการ Payment Gateway ควรมีการเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและพิจารณารายละเอียดเงื่อนไขและการให้บริการอย่างรอบคอบ เพื่อความคุ้มค่าและการใช้งานที่ตอบโจทย์ทางธุรกรรมการเงินมากที่สุด
การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียม Payment Gateway ในประเทศไทยไม่เพียงช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาในบทความนี้มีไว้เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปและมีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นคําแนะนําทางกฎหมายหรือภาษี Stripe ไม่รับประกันหรือรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความไม่เพียงพอ หรือความเป็นปัจจุบันของข้อมูลในบทความ คุณควรขอคําแนะนําจากทนายความที่มีอํานาจหรือนักบัญชีที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการในเขตอํานาจศาลเพื่อรับคําแนะนําที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ